“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 113 ของโลก จะพบ อิรัก อันดับ 70 ของโลก ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ในวันที่ 10 ก.ย.66 เวลา 20.30 นคำพูดจาก เว็บตรงอันดับ1. ถ่ายทอดสดทางช่อง 32 และ AIS PLAY
รอบรองชนะเลิศ ไทย ชนะ เลบานอน 2-1 “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา โขกประตูชัยท้ายเกม ส่วน อิรัก ชนะจุดโทษ อินเดีย หลังเสมอในเวลาปกติ 2-2
สำหรับทีมไทย เป็นแชมป์มา 15 สมัย ได้แชมป์ครั้งสุดท้าย เมื่อครั้งที่ 45 ปี 2560 ที่ชนะจุดโทษเบลารุส และเข้าชิงชนะเลิศ ครั้งสุดท้าย ตั้งแต่ครั้งที่ 44 เมื่อปี 2561 ที่ ไทย แพ้ สโลวาเกีย
สภาพนักเตะทีมชาติไทย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ พร้อมทุกคน เกมแรกมีเซอร์ไพรส์ เล่นเซ็นเตอร์ 3 คน แต่เกมนี้ คาดว่าจะใช้เซ็นเตอร์คู่เหมือนเดิม ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : ฉัตรชัย บุตรพรมคำพูดจาก เว็บตรงอันดับ1
เซ็นเตอร์ : พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน
แบ๊กซ้าย : ธีราทร บุญมาทัน
แบ๊กขวา : นิโคลัส มิคเกลสัน
กองกลาง : สารัช อยู่เย็น, วีระเทพ ป้อมพันธ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
แนวรุก : สุภโชค สารชาติ, ธีรศิลป์ แดงดา, บดินทร์ ผาลา
ด้าน อิรัก ของกุนซือ เฆซุส การ์เซีย จะไม่มี ซีดาน อิกบาล ที่เคยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โดนใบแดงจากเกมกับ อินเดีย จะมี เรบิน ซูลากา ที่เคยเล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ฟราน ปูโตรส ที่เล่นกับ การท่าเรือ เอฟซี ยืนคุมแนวรับ เกมรุกมี อาลี คาริม ที่เล่นกับ เอฟซี วิมเบิลดัน ในอังกฤษ, อาเมียร์ อับบูด ที่เล่นกับ ฮาล์มสตัดส์ ในสวีเดน
เกมนี้คาดว่า จะเป็นนัดสำคัญของ มาโน โพลกิง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย เช่นกัน เนื่องจากมีข้อสงสัยว่า เขาจะได้ทำงานต่อไปหรือไม่ หลังจาก มาซาทาดะ อิชิอิ มาจ่อในตำแหน่งประธานเทคนิคทีมชาติไทย คาดว่าหากไทยไม่ได้แชมป์ มาโน มีสิทธิ์กระเด็นจากเก้าอี้ไม่น้อย.