นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ได้ติดตามบทความของหนุ่มเมืองจันท์ (นายสรกล อดุลยานนท์) นักประพันธ์ ที่ได้โพสต์บทความในเฟซบุ๊ก หนุ่มเมืองจันท์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 โดยมีใจความสรุปเสนอความเห็นกรณีแบงก์ไทยทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น และสภาพเศรษฐกิจไทยในขณะนี้
รมว.แรงงาน เผย 17 ม.ค.นี้ ตั้งอนุฯพิจารณาสูตรค่าแรง
เช็กที่นี่ แบงก์ไหนปรับก่อน ขั้นต่ำบัตรเครดิต 8% เริ่ม 1 ม.ค.67
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวนายชัยระบุว่า เห็นด้วยและถูกใจกับข้อเขียนของหนุ่มเมืองจันท์ในเฟซบุ๊กมาก เพราะถูกต้องแม่นยำตรงกับสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจไทยในห้วงขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับข้อความดังกล่าวจากคอลัมน์นิสต์ดัง ระบุว่า ถ้าเศรษฐกิจดี ประชาชนมีกำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ ทุกธุรกิจมีกำไรเพิ่มขึ้น ธุรกิจแบงก์ที่เปรียบเสมือน “หัวใจ” สูบฉีดเลือดหรือเงินไปเลี้ยงร่างกายหรือภาคธุรกิจจะมีกำไรในสถานการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ร่างกายดี หัวใจก็ควรจะแข็งแรง แต่สถานการณ์เศรษฐกิจในวันนี้แย่มาก แบงก์ชาติเพิ่งปรับลด GDP ปี 2566 จาก 3.6% เหลือ 2.4% พ่อค้าแม่ค้าบ่นว่าขายของไม่ดี ธุรกิจเอสเอ็มอี 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 เลิกกิจการ 17,858 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 11% รถยนต์ถูกยึดเดือนละ 27,000 คัน
เพราะคนผ่อนไม่ไหว คนที่ยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านถูกแบงก์ปฏิเสธประมาณ 50% แต่ถ้าเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมราคา 1-3 ล้านบาท อัตราการกู้ไม่ผ่านสูงถึง 70% เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้อัตราการผ่อนต่อเดือนสูงขึ้นในขณะที่เงินเดือนเท่าเดิม แบงก์ไม่ปล่อยกู้เพราะกลัวหนี้เสีย ลำพังแค่เศรษฐกิจไม่ดี แต่แบงก์กำไรเพิ่มขึ้นก็ถือว่าผิดปกติแล้ว เหมือนร่างกายอ่อนแอ แต่หัวใจกลับแข็งแรง
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เนื้อหาบทความยังระบุว่า พอมาดูเหตุผลว่าทำไมแบงก์ไทยทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยิ่งน่าเกลียด รู้ไหมครับว่ากำไรที่สูงลิ่วของแบงก์มาจากอะไร มาจาก “การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ” หรือ NIM หมายความว่าในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น แบงก์ก็ขยับ “ส่วนต่าง” ของดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ของแบงก์ไทยเพิ่มขึ้นจากเดิม จ่ายดอกเบี้ยคนฝากเงินน้อย ๆ แต่ให้กู้แพง ๆ ทำกำไรแบบง่าย ๆ แบงก์ที่กำไรจาก “ส่วนต่าง” นี้มากที่สุด คือ แบงก์กรุงเทพ อย่าแปลกใจ เพราะดอกเบี้ยฝากประจำ 1 ปีของแบงก์กรุงเทพต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแบงก์ใหญ่ทั้งหมด ตอนนี้อยู่ที่ 1.6% ในขณะที่แบงก์อื่นขยับขึ้นเป็น 2-2.2 %แล้ว ที่มีคนกล่าวหาว่าแบงก์เป็น “เสือนอนกิน” จึงไม่ใช่คำกล่าวหา หน่วยงานที่กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย เหมือนคุณหมอที่ดูแลเรื่อง “หัวใจ” ถ้าการทำงานของ “หัวใจ” ผิดปกติแบบนี้ จะไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือครับ หรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว