ชำแหละ! ขั้นตอนขออนุญาตเปิดโกดังเก็บ-ขายพลุ หลายหน่วยงานเกี่ยวข้องเพียบ

สถิติสยองคำพูดจาก สล็อต888! 15 ปี โรงงาน-โกดัง เก็บพลุระเบิด ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง

แชร์ว่อนโลกโซเชียล คาดว่าเป็นด้านในของโกดังพลุที่เกิดเหตุ

โดยมีราชกิจจานุเบกษา ประกาศร่วมระหว่างกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงหลักเกณฑ์การควบคุมและการกํากับ ดูแลการผลิต การค้า การครอบครอง การขนส่งดอกไม้เพลิงและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตดอกไม้เพลิง

ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องไปทำเรื่องขออนุญาตจากอำเภอ ซึ่งนายอำเภอจะเป็นผู้มีอำนาจออกใบอนุญาต และใบอนุญาตจะมีอายุเพียง 1 ปี เท่ากับว่าจะต้องขออนุญาตปีต่อปี

โดยในรายละเอียดจะต้องมีการแจ้งชนิดของพลุ วัตถุที่เป็นส่วนประกอบ จำนวน ปริมาณอย่างละเอียดเพราะถือเป็นวัตถุอันตราย

หลังจากนั้น ต้องไปทำเรื่องแจ้งเทศบาล หรือ อบต. ส่วนนี้จะดูและเรื่อง พ.ร.บ.การสาธารณสุข กรณีกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน และอุตสาหกรรมจังหวัด ส่วนนี้จะดูแล พ.ร.บ.วัตถุอันตราย หลังจากผู้ประกอบการแจ้งแล้วจะต้องมีเจ้าหน้าไปตรวจสอบการครอบครองวัตถุอันตราย

สำหรับพื้นที่ 4 จังหวังชายแดนใต้ คือ สงขลา ยะละ ปัตตานี และนราธิวาส จะต้องแจ้ง หน่วยงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่กฎอัยการศึก

โดยหากเจาะเฉพาะพื้นที่ตั้งโกดังเก็บพลุในตลาดมูโนะ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ออกมายืนยันว่าไม่รู้เห็นมาก่อนว่าโรงงานแห่งนี้ลักลอบเก็บพลุผิดกฎหมาย แต่หากโรงงานแห่งนี้ทำถูกกฎหมายจะมีหน่วยงานไหนเกี่ยวข้องบ้าง

โกดังแห่งนี้เป็นของร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ ถ้าขออนุญาตตามขั้นตอนจะมีหน่งานงานตั้งแต่ อำเภอสุไหงโก-ลก, อบต.มูโนะ,อุตสาหกรรม จ.นราธิวาส และ กอ.รมน.จว.นราธิวาส

แต่การจะได้รับอนุญาตโกดังต้องเป็นไปตามมาตรฐาน คือ มีรั้วห่างจากอาคารอย่างน้อย 20 เมตร และต้องเตรียมพื้นที่ไว้เผื่อกรณีที่ชุมชนขยายตัวเข้ามาใกล้โรงงานห้ามเข้าใกล้ในรัศมี 100-500 เมตร ขึ้นอยู่กับปริมาณดอกไม้ไฟหรือพลุในโกดัง

ส่วนตัวอาคารต้องเป็นเอกเทศ 1 ชั้น ไม่มีชั้นลอย ไม่มีชั้นใต้ดิน ก่อสร้างด้วยวัสดุไม่ติดไฟ มีสายล่อฟ้า หลังคารองรับแรงอัดระเบิด และต้องมีการระบายความร้อนควบคุมอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียล และต้องมีเครื่องดับเพลิงเคมี 2 เครื่องต่อ 100 ตารางเมตร. ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าโกดังแห่งนี้ไม่เข้าเงื่อนไขสักข้อ และไม่ได้มีการขออนุญาตจากหน่วยงานที่ระบุ

นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโกลก เปิดเผยว่า แม้ในระเบียบผู้ประกอบการสามารถขออนุญาตตั้งโกดังได้ แต่ในพื้นที่ไม่มีการอนุญาตให้เก็บในโกดัง โดยผู้ประกอบการจะต้องนำสินค้าประเภทพลุ ดอกไม้ไฟ ไปฝากเก็บรักษาไว้ในหน่วยงานของทหารในจังหวัดเท่านั้น และจะต้องมีการทำบันทึกเบิกจ่าย เพื่อควบคุมปริมาณที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ

ซึ่งโกดังของร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ ไม่เคยมีการขออนุญาตเก็บพลุ ดอกไม้ไฟ แต่มีการขออนุญาตสร้างโกดังเพื่อเก็บสินค้าเบ็ดเตร็ด และเพิ่งเสร็จได้ไม่ถึงปี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เคยลงพื้นที่สุ่มตรวจโกดังต่าง ๆ ในอำเภอ เมื่อ 5 เดือนที่ก่อน และได้ไปตรวจที่โกดังที่เกิดเหตุด้วยแต่ก็ไม่พบพลุ ประทัด แต่อย่างใด และก็ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ จึงไม่ทราบว่ามีการลักลอบนำพลุ ดอกไม้ไฟมาเก็บที่โกดังแห่งนี้

อดีต อบต.มูโนะ แฉ เจ้าของโกดังขายประทัดนานแล้ว

ข้อมูลนี้กลับขัดแย้งกับข้อมูลของชาวบ้านในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในพื้นที่ นายธวัชชัย เจะแวอดีต อบต.มูโนะ ให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านที่นี่รู้ดีว่า เจ้าของโกดังแห่งนี้นอกจากขายของเบ็ดเตร็ด ยังขายพลุ ขายประทัดมานานแล้ว โดยนำเข้ามาพักไว้ที่โกดังแล้วส่งออกไปขายที่มาเลเชียทุกปี

โดยที่ผ่านมาก็เคยไปเตือนเจ้าของโกดังนับครั้งไม่ถ้วนว่ามันอันตราย แต่เจ้าของก็นิ่งเฉย จนชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

“ผมเตือนไม่รู้กี่ครั้งแล้ว มันอันตราย เราก็รู้วัตถุไฟมันจะเกิดขึ้นอย่างนี้ ชาวบ้านก็รู้ทั้งนั้น แต่เตือนไม่รู้กี่ครั้ง ทำยังไงได้ครับ ปกติครอบครัวทำธุรกิจอะไร ทำสิ่งของเบ็ดเตร็ด ขายของชำหน้าบ้าน มีทั้งนั้น อวน เบ็ด สารพัดอย่าง ลูกประทัดขายมานานแล้วส่งไปมาเลเซีย เดือนรอมฏอนก็สั่งเข้ามาแล้วส่งไปมาเลเซียทุกปีครับ” อบต.มูโนะ กล่าว

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ต้องรอดูว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะชี้แจ้งข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างไร