นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ และธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยในงานเสวนา “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” หัวข้อ “มองเศรษฐกิจโลกสะท้อนเศรษฐกิจไทย” ว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไทยเผชิญกับเหตุการณ์วิกฤติซ้อนวิกฤติ ที่ไม่ใช่แค่การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังเกิดวิกฤติซ้ำเติมกรณีสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่ยังเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่กำลังเกิดขึ้นจากการดิสรัปชั่น ดังนั้น โลกจะมีการเปลี่ยนแปลง และมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างมาก เป็นโอกาสดีที่จะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ เนื่องจากหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ความต้องการสินค้าและบริการของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะที่ภาคเศรษฐกิจจะต้องมีการปรับโครงสร้างให้เกิดการเกื้อกูลกัน เพื่อให้เติบโตไปด้วยกันทั้งเครือข่าย ไม่มีใครสามารถเติบโตต่อไปได้โดยลำพัง
ทั้งนี้ความท้าทายที่เกิดขึ้น อาจเป็นโอกาสก็ได้ หากปรับตัวและวางแผนให้ถูก เพราะยังไม่มีเจ้าตลาดอยู่ เช่น แบ่งบทบาทและสร้างความเกื้อกูลกันระหว่างบริษัทข้ามชาติและบริษัทขนาดเล็ก โดยใช้บริษัทข้ามชาติเชื่อมกับตลาดเพื่อกลับมาเชื่อมกับบริษัทเล็ก ทำงานบนออนไลน์ หานวัตกรรมในการสร้างรายได้ให้คนในประเทศ โดยให้บริษัทเล็กเป็นผู้ผลิตและส่งสินค้าไปขายต่อในต่างประเทศ
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 13 จะเกิดการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงขึ้น เน้นการวิจัยนวัตกรรม โดยเน้นเรื่องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มีสินค้าใหม่ เกษตรแบบสมาร์ท ฟาร์มมิ่ง ด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องปรับตัว ปรับสู่ยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมบริการ รวมถึงในแผนมีความพยายามลดความเหลื่อมล้ำ สร้างซัพพลายเชน กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค มีกิจกรรมเศรษฐกิจไปภูมิภาค แก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า การปรับระบบจัดการภาครัฐให้รวดเร็วมากขึ้น ลดเวลา ลดต้นทุนภาคธุรกิจ ปรับปรุงการศึกษา ซึ่งแผนพัฒนาฯ ที่ผ่านมา ยังเป็นโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ และเศรษฐกิจพึ่งพาภาคการท่องเที่ยว เป็นหลัก และการผลิตแบบเดิม แต่จากวิกฤติโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน จึงต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอีกรอบ และสิ่งสำคัญที่ต้องปรับตัว เราต้องยืนด้วยตัวเอง เน้นการพึ่งพาในประเทศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะ เศรษฐกิจชะลอ เงินเฟ้อสูง หรือ Stagflation แน่นอน เนื่องจากปัจจุบันแม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่ากรอบเป้าหมาย แต่เศรษฐกิจปีนี้ไม่ได้ชะลอตัวแต่อย่างใด และเชื่อว่ามีโอกาสน้อยมากที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งการทำนโยบายของหลายประเทศ เพื่อแก้ปัญหาจากวิกฤติเศรษฐกิจมีทิศทางที่คล้ายกัน รวมถึงไทย คือ ต้องให้นโยบายการคลังเป็นพระเอก อาจต้องยอมให้มีการขาดดุลงบประมาณ หรือหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นบ้าง ขณะที่นโยบายการเงินก็ต้องดูแล เพื่อให้ระบบธนาคาร และตลาดการเงินทำงานได้อย่างเป็นปกติ